รูปแบบ Head And Shoulders

ตามกฎแล้ว เทรดเดอร์มือใหม่มักจะพยายามจะลองหากราฟรูปแบบกราฟรูปศีรษะและหัวไหล่ ในชาร์ตการซื้อขาย เพราะว่ารูปแบบนี้มีการอธิบายไว้ในหนังสือเกือบทุกเล่มเกี่ยวกับ การเทรดสกุลเงิน, ผู้เชี่ยวชาญได้เขียนรายงานไว้, อ่านจากตำรา และอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่ารูปแบบนี้จะเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่เทรดเดอร์หลายคนก็มักจะค้นหาได้อย่างผิดพลาด และไม่ทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้งานในการซื้อขายนั้น ทำอย่างไร

รูปแบบกราฟรูปศีรษะและหัวไหล่ นั้นเป็นรูปแบบของการย้อนกลับของแนวโน้ม หรือกล่าวในอีกนัยหนึ่งก็คือ หากคุณต้องการพบกับรูปแบบนี้ มันจะมาหลังจากที่มันได้ถูกสร้างขึ้นมา ตามกฏแล้วแนวโน้มบางส่วนหรือทั้งหมดก็จะย้อนตัวกลับทันที นั้นหมายความว่ากราฟรูปแบบกราฟรูปศีรษะและหัวไหล่ จะถูกสร้างขึ้นมาในระดับสูงหรือระดับต่ำ

รูปแบบนี้จะถูกสร้างขึ้นจากตำแหน่งทั้ง 3 จุดในระดับสูงสุด หรือ 3 จุดในระดับต่ำสุด

กราฟรูปแบบกราฟรูปศีรษะและหัวไหล่ แบบย้อนกลับ นั้นจะสร้างขึ้นจากตำแหน่งจุด 3 จุดด้านบนสุด ที่ระดับสูงระยะกลางมักจะอยู่เหนือกว่าอีกสองระดับ ตำแหน่งที่ต่ำที่สุดของระดับสูงด้านขวาในระยะกลาง (หัว) นั้นจะอยู่สูงกว่า ระดับต่ำสุดด้านซ้ายของระดับสูงสุด หรือกล่าวในอีกนัยหนึ่งก็คือขอบของรูปแบบกราฟรูปศีรษะและหัวไหล่ นั้นจะอยู่สูงกว่าทางด้านซ้าย แม้ว่าตำแหน่งตามรูปแบบนี้เป็นที่ต้องการให้เกิดขึ้นอย่างมากในกราฟรูปแบบนี้ตามความจริง เพราะว่าก็ยังมีกรณีที่ขอบเส้นกลับเรียงตัวกันเป็นระยะยาว และบางทีก็อาจจะเบนไปทางด้านซ้าย รูปแบบเหลานี้ก็สามารถใช้งานได้ทั้งสิ้น แต่ก็จะมีความเป็นไปได้ในความผิดพลาดที่มากมากกว่ากราฟรูปแบบกราฟรูปศีรษะและหัวไหล่แบบมาตรฐาน

ลองมาวิเคราะห์กัน เมื่อมาถึงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเข้า และออกจากตลาดจากพื้นที่ของกราฟรูปแบบกราฟรูปศีรษะและหัวไหล่ ตามกฏแล้ว ช่องโหว่ในขอบเส้นนั้น เป็นสัญญาณที่เห็นได้อย่างชัดเจนต่อการขาย หรือกล่าวในอีกนัยหนึ่งก็คือ การปิดแท่งเทียนที่ต่ำกว่าขอบเส้นก็คือ สัญญาณในการขาย

เป้าหมายต่ำสุดของพวกเราสำหรับการขายเพื่อทำกำไรนั้น จะเป็นสัดส่วนกับระยะทางจากระดับสูงสุดในระยะกลาง (หัว) ไปยังขอบแต่ถึงอย่างไรก็ตาม กราฟรูปแบบย้อนกลับ ก็มักจะสร้างผลกำไรได้มากกว่าระยะทางที่ให้มา ดังนั้นแล้ว เมื่อได้มีการบรรลุระดับของการทำกำไรออกมา ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการปิดการเทรดบางส่วน และกำหนดที่เหลือของการเทรดไว้ด้วยออเดอร์ trailing stop หรือทำการคำนวณเป้าหมายใหม่ ตัวอย่างเช่น การใช้งานแนวเส้น Fibonacci retracements

ตำแหน่งการหยุดก่อนการขาดทุน (Stop-loss) จะมีการกำหนดไว้ให้อย่างน้อย อยู่สูงกว่าระดับขอบเส้นของหัวไหล่ เพื่อการขายการเทรด นอกจากนั้นแล้ว ปริมาณในการซื้อขายเองก็ค่อนข้างมีความสำคัญในกราฟรูปแบบกราฟรูปศีรษะและหัวไหล่ อีกด้วย

รูปแบบที่แท้จริง