การซื้อขายคู่สกุลเงินในตลาด Forex นั้นสามารถทำได้โดยใช้คู่สกุลเงินหลัก แต่จะไม่รวมสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ
การวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการซื้อขายคู่สกุลเงินหลักอื่นๆ ส่วนการวิเคราะห์ค่าเงินรอง (EUR - ยูโร, JPY - เยน, CHF - สวิสฟรังก์, GBP - ปอนด์) นั้นไม่ได้มีความสำคัญมากเท่าใดนัก การซื้อขายคู่สกุลเงินนั้นถือว่าเป็นวิธีการซื้อขายที่มีกำไรดี แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรมีประสบการณ์ในการซื้อขายบนตลาด Forex ด้วย
การซื้อขายคู่สกุลเงิน มูลค่าของสกุลเงินหนึ่งจะมีอิทธิพลต่อสกุลเงินอื่นๆ ยกเว้นสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ โดยอัตราแลกเปลี่ยนของคู่สกุลเงินเหล่านี้จะเรียกว่าอัตราแลกเปลี่ยนทางอ้อม (cross rates)
สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดคือสกุลเงินที่คู่กับยูโร เช่นคู่สกุลเงิน EUR/CHF, EUR/GBP, EUR/JPY โดยคู่สกุลเงินเหล่านี้มีความโดดเด่นเนื่องจากมีสภาพคล่องสูง ในบางครั้งอาจมีคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงกว่า USD/CHF เนื่องจากนักลงทุนสถาบันอาจสมัครใจที่จะลงทุนในเงินสกุลฟรังก์สวิสมากกว่า
เงินเยนถือเป็นสกุลเงินที่มีความสำคัญต่อกลุ่มของคู่สกุลเงินอื่นๆ เช่น CAD/JPY ดอลล่าร์แคนาดาและเยน NZD/JPY ดอลล่าร์นิวซีแลนด์และเยน รวมไปถึง GBP/JPY - ปอนด์อังกฤษและเยน ซึ่งกลุ่มของคู่สกุลเงินดังกล่าวจัดว่าได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนพอสมควรเนื่องจากพวกเขาสามารถทำ carry trade กับคู่สกุลเงินดังกล่าวได้ Carry Trade คือการขายสกุลเงินหนึ่งที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า (เช่นเงินเยน) เพื่อไปซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ซึ่งการซื้อขายดังกล่าวสามารถทำกำไรให้กับนักลงทุนได้จากการคิดค่าส่วนต่างของทั้งสองสกุลเงิน
ประเทศที่พัฒนาแล้วดังต่อไปนี้เป็นประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุด: แคนาดา, นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ดังนั้นระบบ carry trade จึงใช้ค่าเงินของประเทศเหล่านี้เพื่อเทียบกับเงินเยนของประเทศญี่ปุ่น
นักลงทุนที่ลงทุนในสกุลเงินหลักอาจพบเจอกับเหตุการณ์ที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าพอกันกับค่าเงินรอง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ยากต่อการคาดการณ์ทิศทางของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ หากทั้งสหรัฐและประเทศแถบยูโรโซนยังยืนยังว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนอาจไม่แน่ใจว่าควรตัดสินใจเปิดหรือปิดการซื้อขาย อีกตัวอย่างนึงคือการซื้อขายคู่สกุลเงิน EUR/JPY ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดเมื่อค่าเงินเยนถูกกดดันโดยปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สดในการซื้อขายมีดังนี้ :
EUR/CHF - ประเทศแถบยูโรโซนถือเป็นหุ้นส่วนในการซื้อขายที่สำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เนื่องจากการที่ค่าเงินฟรังก์สวิสค่อนข้างจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า จึงเหมาะในการซื้อขายในระบบปฏิบัติการ carry trade โดยแนวโน้มความเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินนี้เป็นไปในทิศทางบวกตั้งแต่ปี 2549
EUR/JPY - คู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายอย่างแพร่หลาย โดยจะมีความเกี่ยวพันธ์กันระหว่างคู่สกุลเงิน USD/JPY และ EUR/USD นักลงทุนส่วนใหญ่มักจับตามองการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินนี้ โดยจะมุ่งความสนใจไปที่อัตราดอกเบี้ยและค่าความต่างระหว่างอัตราการเติบโตของประเทศญี่ปุ่นและประเทศแถบยูโรโซน
NZD/JPY - คู่สกุลเงินนี้เป็นที่ต้องการมากที่สุดในการตกลงซื้อขายแบบ carry trade เนื้่องจากมีค่าความต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างที่สุด โดยคู่สกุลเงินนี้เหมาะสำหรับการสร้างสถานะซื้อ (Long Position) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีตัวชี้วัดพื้นฐานและตัวชี้วัดทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ
EUR/GBP - สำหรับประเทศอังกฤษ ประเทศแถบยูโรโซนถือเป็นหุ้นส่วนในการซื้อขายที่มีความสำคัญเป็นอันดับสอง หากนักลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐานต่างๆที่เกี่ยวเนื่องระหว่างประเทศอังกฤษและค่าเงินปอนด์เป็นหลักแล้ว เขาก็ต้องเลือกที่จะลงทุนในคู่สกุลเงินนี้อย่างแน่นอนเพราะ GBP/USD เป็นคู่สกุลเงินที่ได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐมากที่สุด
CAD/JPY - นักลงทุนสามารถทำนายแนวโน้มในการซื้อขายราคาน้ำมันได้โดยคำนวณจากคู่สกุลเงินนี้ ประเทศแคนาดามีแหล่งกักเก็บน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ถือเป็นประเทศส่งออกน้ำมันหลักดังนั้นจึงทำกำไรโดยการเพิ่มราคาน้ำมัน ในทางตรงกันข้ามประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันจะต้องพบกับภาวะขาดทุน ดังนั้นหากต้องการทำกำไรจากการเปิดสถานะซื้อคู่สกุลเงินนี้ ควรทำในช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
นักลงทุนสามารถเปิด carry trade ของคู่สกุลเงินได้ โดยยิ่งมีความแตกต่างระหว่าง 2 ประเทศมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อการซื้อขาย ในแต่ละคู่สกุลเงินก็จะมีลักษณะพิเศษและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่จะเป็นตัวกำหนดแนวโน้มตลาด