เมื่อวานนี้ธนาคารแห่งอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจาก 0.75% ไปเป็น 1.00% แต่เงินปอนด์ดูเหมือนว่าจะปรับตัวลงถึง 274จุด (-2.18%) แน่นอนว่ามีเหตุผลอย่างเป็นทางการจากการนี้ ด้วยการปรับตัวลงในการคาดการณ์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของธนาคารแห่งอังกฤษที่ลดลงสำหรับปี 2023 จาก 1.25% ไปเป็น -0.25% ขณะที่การคาดการณ์สำหรับปีปัจจุบันอยู่ในจุดขาดทุนที่ 3.75% ธนาคารแห่งอังกฤษพบว่ามีปัญหาหลักส่วนนี้คือการล็อคดาวน์จากการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในประเทศจีน การฟื้นตัวระยะยาวของห่วงโซ่อุปทานและภาวะเงินเฟ้อในอังกฤษปีนี้จาก 5.75% ไปเป็น 10.25% แต่โดยรวมแล้วเงินปอนด์ไม่ได้ปรับตัวลงด้วยตนเองแต่เมื่อเทียบกับพื้นหลังของการจู่โจมในวงกว้าวของเงินดอลลาร์หลังจากการอ่อนค่าลงโดยชั่วคราวในวันพุธ ดัชนีหุ้น S&P 500 ลดลงถึง 3.56% ดัชนี Nasdaq ลดเกือบ 5% (-4.99%) อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ5ปีเพิ่มขึ้นจาก 2.93% ไปเป็น 3.05% ทองแดงลดลงถึง 1.87% โดยมีการถอนตัวของนักลงทุนจากความเสี่ยงเป็นจำนวนกว้างอย่างมาก

กราฟประจำวันแสดงให้เห็นว่า คู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐได้เคลื่อนตัวผ่านระยะแนวรับที่ 1.2436/76 ตอนนี้ราคาได้ระดับเป้าหมายตามนี้คือ 1.2250 ซึ่งเป็นจุดต่ำของเดือนมิถุนายนปี2020 และ 1.2073 คือจุดต่ำของเดือนพฤษภาคมปี2020

กราฟระยะเวลาสี่ชั่วโมงแสดงให้เห็นว่าราคากำลังปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นตัวบ่งชี้ทั้งคู่ เส้น Marlin Oscillator กำลังปรับตัวลงในพื้นที่แดนลบ